วิธีเลือกเครื่อง CNC ให้เหมาะสมกับประเภทงาน เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของชิ้นงาน และคุณภาพของการผลิต อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนในการผลิตได้อีกด้วย โดยการพิจารณาเลือกเครื่อง CNC มีปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน
1. ประเภทของชิ้นงาน
วัสดุ: ชนิดของวัสดุที่ต้องการตัดเฉือน เช่น โลหะ, ไม้, พลาสติก
ขนาด: ขนาดของชิ้นงานที่ต้องการผลิตเพื่อหาเครื่องที่เหมาะสมกับชิ้นงาน และรองรับชิ้นงานได้
ความซับซ้อน: รูปทรงและรายละเอียดของชิ้นงาน
2. ประเภทของเครื่อง CNC
ประเภทของเครื่อง CNC มีด้วยกันหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น
เครื่อง CNC Turning Centers : เครื่องกลึง CNC ทำงานได้ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อทำการผลิตชิ้นส่วนวัสดุให้ได้ขนาดและรูปทรงตามที่ต้องการด้วยการกลึง
เครื่อง Vertical Machining Centers : เครื่องกัดแนวตั้ง โดยจะกัดชิ้นงานจากด้านบน เหมาะสำหรับงานผลิตชิ้นได้หลายหลาก โดยจะกัดชิ้นงานจากด้านบน
เครื่อง CNC Horizontal Machining Centers : เครื่องกัดแนวนอน ที่มีหัวกัดเคลื่อนที่ไปในแนวนอน สามารถผลิตชิ้นงานได้หลากหลายรูปแบบ เหมาะสำหรับชิ้นงานที่มีขนาดยาว ความแม่นยำสูง และทำงานได้อย่างรวดเร็ว
เครื่อง CNC 5 Axis Machining Centers : เป็นเครื่องกัด CNC ที่เคลื่อนที่ได้ทั้งหมด 5 แกน ไม่ว่าจะเป็น X, Y, Z, A, และ C เหมาะกับชิ้นงานที่ต้องการความแม่นยำ และความละเอียดสูง
เครื่อง CNC MULTI-TASKING MACHINE : เป็นเครื่องที่รวมทั้ง การกัด และการกลึง อยู่ในเครื่องเดียวกัน จนเป็นเครื่องจักรอเนกประสงค์ (Multi-tasking) ที่ช่วยในการประหยัดเวลา ในการเปลี่ยนชิ้นงาน ลดต้นทุนการผลิต และความผิดพลาดจากการเปลี่ยนชิ้นงานได้ โดยการตั้งโปรแกรม เพียงครั้งเดียว และอื่นๆอีกมากมาย
3. ความสามารถในการตัดเฉือน
จำนวน Tool Magazine ของสปินเดิล (Spindle) ว่ามีเพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่ ช่วยลดขั้นตอน และเวลาในการทำงาน กรณีหากชิ้นงานมีความละเอียด และต้องการใช้ Tool จำนวนมาก
4. ความแม่นยำและความละเอียด
เลือกใช้เครื่อง CNC ที่มีความแม่นยำสูง มีค่าความคลาดเคลื่อนน้อย เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีประสิทธิภาพสูง
5. ระบบควบคุมและซอฟต์แวร์
เลือกเครื่อง CNC ที่มีฟังก์ชันการใช้งานง่าย และมีความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอยู่ เช่น CAD/CAM ช่วยลดเวลาในการทำงาน และ ตรวจสอบว่าเครื่องรองรับไฟล์ประเภทใดบ้าง
6. ความทนทานและการบำรุงรักษา
ควรเลือกเครื่องที่ผลิตจากวัสดุที่มีความทนทาน มีอายุการใช้งานยืนยาว
7. งบประมาณ
ราคาเครื่อง: ควรเลือกเครื่องที่อยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ แต่ให้คำนึงถึงการใช้งานและความปลอดภัยเป็นหลักควรเลือกซื้อเครื่อง CNC ให้เหมาะกับขนาดของชิ้น หากชิ้นงานต้องการความละเอียดสูง และใช้เครื่องที่ราคาถูกที่ไม่ตรงตามการใช้งาน อาจจะทำให้ชิ้นงานเกิดความเสียหายได้
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม : ค่าใช้จ่ายที่ใช้ร่วมกับเครื่อง CNC เช่น เครื่องมือเสริม การติดตั้ง การฝึกอบรมพนักงาน
8. บริการหลังการขาย
ตรวจสอบว่ามีการบริการหลังการขายและการรับประกันหรือไม่ ควรเลือกซื้อเครื่อง CNC ที่มีทีมบริการโดยตรง มีความชำนาญ สามารถเข้าไปตรวจสอบงานได้ในทันที
Comments