ถึงแม้ว่าในปีนี้ "ข้าวหอมมะลิ" ไทย ไม่สามารถครองความเป็นหนึ่งได้ แต่เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ "ข้าวหอมมะลิ" ยังคงเป็นสิ่งที่คงคุณค่าข้าวไทยไว้ได้เสมอ และวันนี้เราจะมาเพิ่มคุณค่าให้กับข้าวไทย กับของที่นิยมกินกันทั่วโลก นั่นก็คือ เบเกอรี่ จากเดิมเราจะคุ้นเคยกับการนำแป้งข้าวสาลีมาเพื่อทำขนมและเบเกอรี่ชนิดต่าง ๆ แต่ตอนนี้ ข้าวสัญชาติไทย อย่าง "ข้าวหอมมะลิ" ได้ถูกนำมาแปรรูปเป็น แป้ง เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเบเกอรี่และขนมชนิดต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเนื้อแป้งนั้นมีความละเอียดไม่ต่างจากแป้งข้าวสาลี ซึ่งคุณสมบัติเด่นของแป้งข้าวหอมมะลินั้น คือ ไม่มี "กลูเตน" ที่สำคัญคุณค่าทางอาหารอยู่ครบ และยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ กลิ่นของข้าวหอมมะลิ ที่เมื่อนำไปทำเป็นขนมชนิดต่าง ๆ แล้วจะทำให้ขนมนั้นมีความหอม น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
"ข้าวหอมมะลิ" มีแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญอยู่ในแถบภาคอีสาน ที่เรารู้จักกันดีในนามของ "ทุ่งกุลาร้องไห้" ประกอบไปด้วย จังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคราม ร้อยเอ็ด และยโสธร ด้วยเอกลักษณ์ ความหอม ความหวาน ความนุ่ม ของข้าวหอมมะลิ จึงทำให้เป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยกระบวนการผลิตในขั้นตอนของการแปรรูปจากข้าวเปลือกเป็นข้าวสารหอมมะลิ ทำให้เกษตรกรได้ส่วนหนึ่งของข้าวที่เรียกว่า "ปลายข้าว" ซึ่งแต่เดิมนั้น ปลายข้าวจะถูกนำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตร อย่างเช่น เพื่อเป็นอาหารสัตว์ และถูกนำมาแปรรูปในรูปแบบอื่น อย่างเช่น โจ๊ก เป็นต้น ซึ่งเกษตรกรยังสามารถขาย ปลายข้าวได้ในราคาที่ไม่สูงมากนัก จากเดิมขายปลายข้าวได้ประมาณ กิโลกรัม 10 - 15 บาท เมื่อนำมาแปรรูปเป็นแป้ง สามารถขายได้สูงถึงกิโลกรัมละ 60 บาทเลยทีเดียว
"แล้วแป้งข้าวหอมมะลิ ดีอย่างไร"
ดีแน่นอนค่ะ เพราะนอกจากเราจะได้ส่งเสริมชาวนาไทยให้มีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว เรายังได้สุขภาพที่ดีจากการบริโภคแป้งข้าวหอมมะลิ เพราะในปลายข้าวหอมมะลินั้น มีสารตัวหนึ่งที่ชื่อว่า "Gamma - Orzanol" ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี จึงช่วยให้ระบบหมุนเวียนของเลือดนั้นดี ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงดีอีกด้วย และยังอุดมไปด้วย โอเมก้า 3และ 6 รวมถึง สารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "เซราไมด์" ที่จะช่วยบำรุงผิวพรรณของคุณสาว ๆ ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ แป้งข้าวหอมมะลิ ไม่มี กลูเตน นะจ๊ะ
"แล้วกลูเตน คือ อะไร มีประโยชน์และมีโทษอย่างไร"
กลูเตน (Gluten) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้ในข้าวสาลี ข้าวไรย์ และข้าวบาร์เลย์ ซึ่งพบในผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแป้งข้าวสาลี เช่น เบเกอรี่ พาย เค้ก โดย "กลูเตน" มักใช้เป็นส่วนประกอบในการทำเนื้อเทียมในอาหารมังสวิรัติ และอาหารเจ รวมถึงยังพบได้ใน ปลากระป๋อง กะทิสำเร็จรูป น้ำมันหอย ซอสถั่วเหลือง เป็นต้น
ประโยชน์ของกลูเตน คือ เป็นตัวช่วยให้ขนมปังฟูขึ้น และเนื้อนุ่ม นอกจากนี้ กลูเตนในข้าวสาลียังอุดมไปด้วยโปรตีนถึง 23 กรัมต่อ ข้าวสาลีประมาณ 1/4 ถ้วย ซึ่งมากกว่าเนื้อวัว เนื้อปลา และเนื้อไก่ประมาณ 85 กรัมอีกด้วย กลูเตนจะส่งผลเสียกับ "ผู้ที่แพ้กลูเตน" โดยมีอาการคล้ายกับคนที่แพ้นมวัว แม้กินเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ ทำให้เกิดโรคลำไส้อักเสบ ท้องอืด ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการชาตามแขนและขา
"แล้วเราจะหาซื้อ แป้งข้าวหอมมะลิ ได้จากที่ไหน"
ตอนนี้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปเริ่มมีวางจำหน่ายให้เห็นแล้วหละคะ แต่หากใครหาไม่เจอ แอดแนะนำว่า เข้าเฟสบุ๊ค แล้วพิมพ์คำว่า "แป้งข้าวหอมมะลิ" จะมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบรนด์จากเกษตรกรไทยโดยแท้ ที่เกิดจากการรวมกลุ่มเพื่อแปรรูปข้าวโดยเฉพาะ
"เล่ามายาวเยียด ขนมที่อยากกินที่ทำจากแป้งข้าวหอมมะลิ ก็ยังหากินได้ยากซะเหลือเกิน คงจะดีไม่น้อยหากอุตสาหกรรมเบเกอรี่ ร้านขนมทั้งไทยและเทศ หันมาใช้แป้งข้าวหอมมะลิกันเพิ่มมากขึ้น ค่อย ๆ ปรับ ค่อย ๆ ลด จนทุกอย่างลงตัว สร้างเอกลักษณ์ใหม่ให้กับร้านเบเกอรี่ ด้วยกลิ่นหอม ๆ ของข้าวหอมมะลิ สร้างมูลค่าให้กับข้าวไทย และยังสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยได้อีกทางหนึ่งด้วยหละคะ"
...แป้งคุณภาพดี จากข้าวหอมมะลิ แป้งสายพันธุ์ไทย ไร้กลูเตน...
ที่มา : รักบ้านเกิด